ความงามของศิลปะและวัฒนธรรมชามัทฉะ Matcha Green Tea กว่า 500 ปี: การเดินทางสู่ความเงียบสงบและเอกลักษณ์ของรสชาติ

In the realm of culinary traditions, few stories are as captivating and enduring as that of Matcha tea. Originating in ancient Japan, this vibrant green elixir has evolved into much more than a simple beverage—it has become an art form, a cultural emblem, and a source of sensory delight for over five centuries. The journey of Matcha tea through history is a testament to the intricate fusion of taste, aesthetics, and spirituality that have woven together to create a captivating tapestry of traditions. Join us on a journey through time as we unveil the layers of history and beauty that make Matcha tea a cherished cultural treasure that continues to enchant and inspire to this day.

ในภูมิประเทศอันเงียบสงบของญี่ปุ่น ท่ามกลางเมืองที่พลุกพล่านและวัดอันเงียบสงบ มีประเพณีเก่าแก่นับศตวรรษที่ผสมผสานความกลมกลืน การมีสติ และประสบการณ์ทางประสาทสัมผัสที่เป็นเอกลักษณ์ นั่นคือโลกแห่งชามัทฉะของญี่ปุ่น น้ำอมฤตสีเขียวอันงดงามนี้นี้ได้ นอกจากที่เป็นเครื่องดื่มเพียงอย่างเดียว ได้กลายเป็นสัญลักษณ์ของวัฒนธรรม ปรัชญา และสุนทรียศาสตร์ของญี่ปุ่น มาเจาะลึกศิลปะและวัฒนธรรมที่เกี่ยวข้องกับชาอันน่าทึ่งนี้กันดีกว่า

ชามัทฉะมีต้นกำเนิดมาจากไหน ?

มัทฉะ (Matcha) ซึ่งแปลว่า "ชาผง" มีต้นกำเนิดมาจากจีนก่อนที่จะเดินทางมายังญี่ปุ่นในช่วงศตวรรษที่ 12 อย่างไรก็ตาม ในประเทศญี่ปุ่น ชามัทฉะได้รับความนิยมอย่างมากและได้กลายเป็นส่วนสำคัญของโครงสร้างทางวัฒนธรรมของประเทศ  การเพาะปลูกชาเขียวมัทฉะ โดยทั่วไปจะมาจากต้นเทนฉะหลากหลายพันธุ์ของต้นคาเมลเลีย ไซเนนซิส ใบชาหล่านี้ถูกทำให้ห่างจากจากแสงแดดโดยตรงเป็นเวลาหลายสัปดาห์ก่อนการเก็บเกี่ยว ส่งผลให้มีการผลิตคลอโรฟิลล์และกรดอะมิโนเพิ่มขึ้น โดยเฉพาะแอล-ธีอะนีน สภาพแวดล้อมที่เป็นเอกลักษณ์นี้ไม่เพียงแต่ให้สีเขียวสดใสเท่านั้น แต่ยังช่วยให้ชามีรสชาติแสนอร่อยเข้มข้นและมีกลิ่นหอมใบไม้ที่เป็นเอกลักษณ์อีกด้วย  หลังการเก็บเกี่ยว ใบชาจะถูกนึ่ง ตากให้แห้ง และบดให้เป็นผงละเอียดโดยใช้เครื่องบดหินแกรนิตแบบดั้งเดิม กระบวนการที่ลำบากนี้สะท้อนถึงคุณค่าแห่งงานฝีมือที่พิถีพิถันของชาวญี่ปุ่นอย่างแท้จริง

พิธีชงชามัทฉะญี่ปุ่น

หัวใจสำคัญของความสำคัญทางวัฒนธรรมของมัทฉะอยู่ที่พิธีชงชาแบบดั้งเดิมของญี่ปุ่นหรือชาโนยุ (茶の湯) ซึ่งเป็นพิธีกรรมที่มีความพิถีพิถันซึ่งมีมาตั้งแต่ศตวรรษที่ 16 พิธีนี้เป็นมากกว่าวิธีการเตรียมและดื่มชา แต่เป็นการแสดงความสามัคคี ความเคารพ และการสติ  พิธีชงชามักจัดขึ้นในห้องชาอันเงียบสงบ ประดับด้วยการตกแต่งแบบเรียบง่ายซึ่งสะท้อนถึงแก่นแท้ของวาบิ-ซาบิ - การค้นหาความงามในความไม่สมบูรณ์ ทุกอิริยาบถและการเคลื่อนไหว ตั้งแต่วิธีการชงชาที่แม่นยำไปจนถึงการแสดงและรับถ้วย เปี่ยมไปด้วยความหมายและความตั้งใจ บรรยากาศเงียบสงบ เชิญชวนให้ผู้เข้าร่วมพิธีชงชาชื่นชมความงามในความเรียบง่ายนี้

ชามัทฉะมีประโยชน์อย่างไร ?

นอกเหนือจากความสำคัญทางวัฒนธรรมแล้ว มัทฉะยังมีประโยชน์ต่อสุขภาพอีกมากมายที่ส่งผลให้มัทฉะได้รับความนิยมไปทั่วโลก เนื่องจากมีสารต้านอนุมูลอิสระ วิตามิน และแร่ธาตุในปริมาณที่เข้มข้น แอล-ธีอะนีนในมัทฉะในปริมาณสูงช่วยให้รู้สึกผ่อนคลายโดยไม่ทำให้เกิดอาการง่วงนอน ซึ่งคุณประโยชน์ของชามัทฉะเหล่านี้มีความคล้ายคลึงกับชาเขียว 

ในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา มัทฉะได้ค้นพบวิธีการสร้างสรรค์อาหารสมัยใหม่ สีสันที่สดใสและรสชาติที่เป็นเอกลักษณ์เป็นแรงบันดาลใจให้เชฟทดลองทำอาหารที่ผสมมัทฉะ ตั้งแต่ขนมอบและขนมหวานไปจนถึงซอสเผ็ดและบะหมี่ ความอเนกประสงค์ของมัทฉะช่วยเพิ่มความสร้างสรรค์ให้กับการทำอาหารอย่างหลากหลาย

ไม่ว่าจะเพลิดเพลินในพิธีชงชาแบบดั้งเดิม เป็นพิธีกรรมสบายๆ ในแต่ละวัน หรือเป็นส่วนผสมในการทำอาหารที่เป็นนวัตกรรมใหม่ ชามัทฉะญี่ปุ่นนั้นเชิญชวนให้เราชื่นชมความงามในความเรียบง่าย คุณค่าของการดำเนินชีวิตอย่างมีสติ และความงามของมรดกทางวัฒนธรรม 

หากคุณรักการดื่มชาเป็นชีวิตจิตใจแล้ว ร้านชา ชายดิม ที เฮ้าส์ (Chaidim Tea House) เป็นตัวเลือกที่เหมาะสมสำหรับคุณอย่างมาก เพราะว่าเรามีชาแทบทุกประเภท ที่สามารถเติมเต็มความปราถนาของคุณได้อย่างดีเยี่ยม ไม่ว่าเป็นชาเขียว ชาแดง ชาดำ ชาอู่หลง หรือแม้แต่ชาสมุนไพรหอมกรุ่นรสชาติละมุน ชุมคอ สำหรับผู้ที่ไม่ต้องการดื่มคาเฟอีน